รู้จัก Classmethod ได้อย่างไร ?

ทางบริษัทพอจะรู้จักคลาวด์ของ AWS มาอยู่บ้างแล้ว ดังนั้นจึงได้หาข้อมูลว่ามีบริษัทใดบ้างที่เป็นพาร์ทเนอร์กับทาง AWS ในประเทศไทย จนได้มาเจอกับ Classmethod ซึ่งเป็นบริษัทที่มี Potential และมีรายละเอียดข้อมูลบริษัทค่อนข้างดี จึงได้ลองติดต่อเข้ามาผ่านช่องทางเว็บไซต์ครับ

---

เคยเข้าร่วมงารสัมมนาของทาง Classmethod หรือไม่ ?

เคยเข้าร่วมครับ ซึ่งในช่วงแรก ๆ ต้องยอมรับเลยว่าไม่ค่อยเข้าใจ เพราะแน่นอนว่าคลาวด์เจ้าใหญ่ ๆ อย่าง AWS นั้นมี engine หรือซอฟแวร์ต่างๆ ให้เลือกใช้งานเยอะมากทำให้การใช้งานของผู้ที่กำลังเริ่มต้นศึกษาวิธีการใช้งานค่อนข้างเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่พอได้ลองเรียนรู้ผ่านบทความของทาง AWS เองก็ดี หรือบทความในคลังข้อมูลของทาง Classmethod (DevelopersIO) ก็สามารถทำให้เข้าใจข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น

---

บทความข้อมูลเชิงเทคนิค DevelopersIO สามารถช่วยซัพพอร์ตได้มากน้อยแค่ไหน?

ในส่วนเนื้อหาของบทความ สามารถช่วยให้เราแก้ไขปัญหาในส่วนต่าง ๆ ได้มากขึ้น มันอาจไม่ได้ช่วยแบบตรงจุด แต่มันสามารถทำให้เราไปสู่เป้าหมายของเราได้ ซึ่งเราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าทุก ๆ การใช้งานคลาวด์มันมีการ Config ที่แตกต่างกันไปตามการตั้งค่าของแต่บุคคล

แต่สิ่งที่เราสอบถามไปหรือบทความที่ทาง Classmethod มีนั้นมันอาจเป็นข้อมูลกลาง ซึ่งแน่นอนว่ามันช่วยเราได้ในบางส่วน แต่บางส่วนเราก็ต้องไปศึกษาเพิ่มเติมอีกที ซึ่งในบางส่วนนั้นที่ Classmethod มีก็เป็นส่วนที่ทำให้เราสามารถต่อยอดไปสู่ปลายทางของเราได้

---

ความคาดหวังที่มีต่อ Classmethod ในตอนแรก ?

สิ่งที่คาดหวังตอนแรกเลย อาจจะเป็นเรื่องของการ Support เป็นหลักมากกว่า อย่างในกรณีที่เราไม่สามารถกำหนดการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ได้ เราจึงอยากได้พาร์ทเนอร์ ที่เข้ามาช่วยซัพพอร์ตงานในส่วนนี้ให้ แทนการหาข้อมูลที่บางทีเราอาจจะได้รับข้อมูลที่เป็นแค่ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งข้อมูลรายละเอียดเชิงลึกที่เราต้องการนั้น บางทีการถามผู้รู้หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญจะเป็นการตอบโจทย์ที่มากกว่า ดังนั้นแล้วในส่วนนี้ เราจึงอยากได้พาร์ทเนอร์ในไทยที่สามารถสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วและซัพพอร์ตเราได้ดีที่สุด

อีกทั้งในกรณีที่ลูกค้าของเราติดปัญหาเรื่องการใช้งาน จะได้สามารถตอบกลับได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ดีกว่าการที่เราจะต้องมานั่งรอคำตอบจากพาร์ทเนอร์เจ้าอื่น 1-2 วัน กว่าที่เราจะมาสามารถตอบคำถามให้กับลูกค้าของเราได้
และเพราะการสนับสนุนจากคลาสเมธอดที่เป็นพาร์ทเนอร์ ทำให้เราสามารถตอบคำถามลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอเหมือนกับพาร์ทเนอร์เจ้าอื่น ๆ ที่ทำให้เสียโอกาสได้

---

การซัพพอร์ตจากทาง Classmethod เป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่ ?

ประทับใจในการให้บริการครับ ทั้งการวาง Infrastructure โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่ง Classmethod เองก็ช่วยในส่วนนี้ได้ดีมาก เพราะเป็นส่วนที่ตอนนี้ทางทีมเองก็ขาดในส่วนนี้เหมือนกัน หากเรามีโครงสร้าง Architecture ที่เป็นระบบและผ่านการช่วยเหลือจากทางผู้เชียวชาญมาก่อนอยู่แล้ว จะทำให้ง่ายต่อการที่ไปนำเสนอให้ลูกค้าดูได้ว่าเราจะมีการวางโครงสร้างแบบไหนเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

อีกทั้งยังช่วยลดเวลาในการทำงานลงได้ และสามารถนำเวลาตรงนี้ไปโฟกัสกับงานในส่วนอื่นต่อไปได้เลย

---

ในฐานะที่เป็นบริษัทที่พัฒนาเรื่องแอปพลิเคชันให้ลูกค้า คิดว่าการมีพาร์ทเนอร์ที่คอยให้คำปรึกษาทางด้านโครงสร้างถือว่าจำเป็นมั้ย ?

โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าจำเป็นครับ เนื่องจากบริษัทของเรา(Undefined) ส่วนใหญ่พนักงานของเราจะเป็น Developers และไม่ได้มี Software Engineer ที่สามารถทำ Infrastructure ที่เป็นส่วนของ Server หรือ Network ได้ถึงขนาดที่สามารถลงรายละเอียดในเชิงลึกได้ ทำให้การที่เรามีพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญในส่วนนี้มาช่วย จะทำให้เราสามารถ save cost ลงได้ แถมช่วยประหยัดเวลาได้มากเลยด้วย

---

การให้บริการของทีมซัพพอร์ตเป็นอย่างไรบ้าง ?

โอเคเลยครับ เวลามีคำถามอะไร ก็สามารถถามเข้าไปได้ และก็ได้รับคำตอบตรงจุดตาม ที่ถามเข้าไป เป็นผู้ช่วยที่สามารถช่วยเหลือได้อย่างดีเลยครับ การให้บริการค่อนข้าง รวดเร็ว ถามไปตอนเช้า เดี๋ยวก็ได้รับคำตอบกลับมาไม่เกินตอนเย็น ซึ่งถือว่ารวดเร็วมาก ทำให้เราประทับใจในส่วนนี้มากๆ

---

การใช้งาน Classmethod Members สามารถซัพพอร์ตได้ครบถ้วนมั้ย ?

ณ ปัจจุบัน ที่ใช้งานอยู่ถือว่าทำได้อย่างครบถ้วนครับ แต่ก็ต้องรอดูว่าในอนาคตจะมี โปรเจคอะไรใหญ่มากกว่านี้รึเปล่า ซึ่งในตอนนี้เรื่องการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปที่มีในเซอร์วิสของ AWS ตอนนี้ก็สามารถใช้งานได้หมด ซึ่งตัวไหนที่เราติดปัญหาก็สามารถ แจ้งและสอบถามไปยัง Classmethod เพิ่มเติมได้ครับ

---

มีความเห็นอย่างไรบ้างเกี่ยวกับบริการด้าน Billing ของทาง Classmethod ?

ตัว Billing สามารถช่วยทาง Undefined ได้ดี เพราะทำให้เราสามารถมองเห็นได้ว่าเราเสียค่าใช้จ่ายในแต่ละวันไปเท่าไร และสามารถที่จะ ดูได้อีกด้วยว่าลูกค้าที่ On-hand เราอยู่นั้น มีเจ้าไหนที่เสียค่าใช้จ่ายไปแล้วเท่าไรบ้าง ทำให้เราสามารถควบคุมจัดการ Cost ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละวันของเราได้ (ซึ่งบริการในส่วนนี้ดูง่ายมากกว่าการที่ต้อง ไปดูโดยตรงของทาง AWS) เพราะของ Classmethod Members สามารถดูได้ว่าแต่ละวันแต่ละเดือนเราใช้เซอร์วิสไหนไปบ้าง โดยสามารถดูได้ผ่านตัวกราฟต์แสดงผลที่ใช้งานได้ไม่ยากเลย

---

อะไรที่ประทับใจในความเป็น Classmethod มากที่สุด ?

ตอนแรกที่เราเลือก Classmethod นอกเหนือจากที่เป็นพาร์ทเนอร์กับทาง AWS แล้ว อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Classmethod นั้นเป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น เพราะในมุมที่เคยสัมผัส หรือร่วมงานกับทางบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะจริงจังกับการทำงาน อีกหนึ่งเหตุผลคือ หากเราทำงานร่วมกับบริษัทที่เป็นสัญชาติต่างประเทศ จะเป็นการดีกว่า หากเราต้องการขยายตลาดของบริษัทออกสู่ตลาดต่างประเทศได้

---

ความคาดหวังในอนาคต

ณ ตอนนี้คิดว่าไม่มีอะไรที่จะคาดหวังไปมากกว่านี้ เพราะตอนนี้คิดว่าที่เป็นอยู่โอเคแล้ว เวลาเราติดปัญหาอะไร เราสามารถคอยปรึกษากับทาง Classmethod ได้ หากเราไม่เข้าใจเรื่อง Infrastructure ตรงไหนก็สามารถติดต่อสอบถามเข้าไปได้

---

อยากจะฝากบอกอะไรกับผู้ที่สนใจใช้งานคลาวด์อยู่บ้าง ?

ในยุคปัจจุบัน บริการคลาวด์ค่อนข้างจะมีให้ใช้งานอย่างแพร่หลาย ทั้งเจ้าใหญ่และเจ้าเล็ก ซึ่งการใช้งานคลาวด์เจ้าใหญ่ ๆ เราอาจจะมองว่ามันแพง เพราะกว่าที่จะได้สเปคเซิฟเวอร์ที่ต้องการจำเป็นต้องใช้เงินค่อนข้างสูง แต่สิ่งที่คุณจะได้กลับไปคือการได้ใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์ ,ความปลอดภัยในการใช้งาน ,เซอร์วิสจำพวก Free tier ให้ใช้งาน และที่สำคัญเลย คือการสำรองข้อมูลหรือการ Backup
ที่ยอดเยี่ยม หากเทียบกับคลาวด์เจ้าเล็ก ๆ ที่หลายคนมองว่ามีราคาที่ถูกกว่า แต่อย่าลืมว่าถ้าหากเซิฟเวอร์ของคลาวด์เหล่านั้นเกิดปัญหาขึ้นมาโอกาสที่จะเกิดการสูญหายของข้อมูลจะมีมากกว่าคลาวด์เจ้าใหญ่ ๆ ที่โอกาสเกิดปัญหาขึ้นอาจมีไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ
ซึ่งถ้าหากคุณมีโปรเจ็กต์ใหญ่ หรือข้อมูลที่สำคัญมากที่หากสูญหายจะเกิดเอฟเฟกต์ที่ส่งผลกระทบตามมา ทำให้บริษัทสูญเสียโอกาส หรือรายได้ไปได้ การเลือกใช้คลาวด์ที่มีประสิทธิภาพอาจจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่า